แนวโน้มดี Bitcoin จะกลับตัวเป็นขาขึ้น

แนวโน้มดี Bitcoin จะกลับตัวเป็นขาขึ้น

สำหรับนักลงทุนที่เพิ่งเข้ามาลงทุนในคริปโตเคอเรนซี่เมื่อช่วงปลายปีที่ผ่านมาก็คงจะประสบปัญหาขาดทุนกันอย่างแน่นอนเลยทีเดียวเพราะว่าตลาดส่วนใหญ่ยังอยู่ในช่วงขาลงนับตั้งแต่ในช่วงเดือนธันวาคมเป็นต้นมาและในตอนนี้ก็เข้าสู่เดือนที่ 2 ของปี 2022 แล้วตลาดก็ยังอยู่ในช่วงของขาลงอยู่แต่ก็มีแนวโน้มที่ดีออกมาให้เห็นเมื่อ Bitcoin เริ่มมีการปรับตัวขึ้นทีละน้อยทำให้เหรียญเล็ก ๆ อื่น ๆ และมีการปรับตัวขึ้นตาม Bitcoin สามารถมีราคากลับมาที่ 1.38 ล้านได้ เมื่อช่วงปลายเดือนธันวาคมเข้าสู่ช่วงต้นเดือนมกราคมเราได้เห็นราคาของ Bitcoin ลงไปต่ำสุดจนเกือบถึง 1 ล้านบาทกันเลยทีเดียว ซึ่งเป็นการปรับตัวลงมาจากราคา 2 ล้านบาทเรียกว่าลงมามากกว่า 50% สำหรับมือใหม่คงจะเห็นว่าการปรับตัวลงครั้งนี้เป็นการปรับตัวลงที่เยอะมากแต่ที่จริงแล้วมันเป็นการปรับตัวลงตามธรรมชาติของคริปโตเคอเรนซี่ที่มีการปรับตัวขึ้นลงอย่างรุนแรงเป็นแบบนี้อย่างสม่ำเสมอ โดยมีราคาต่ำสุดของเหรียญอยู่ที่ 1.12 ล้านเลยทีเดียวเมื่อช่วงปลายเดือนมกราคมที่ผ่านมาและหลังจากนั้นราคาก็มีการปรับตัวขึ้นมาอย่างต่อเนื่องจนถึงช่วงเมื่อวันที่ 6 กุมภาพันธ์ราคาก็สามารถกลับมายืนที่ 1.38 ล้านได้ ซึ่งก็เป็นมุมมองที่ดีเพราะถ้าใช้หลักของเส้นแนวโน้มราคาของมันสามารถขึ้นมายืนเหนือเส้นแนวโน้มได้ส่งผลให้อาจจะมีการปรับตัวสูงขึ้นไปอีกในอนาคต แต่อย่างไรก็ตามในตอนนี้ดูเหมือนว่าราคาจะมาชนกับเส้นแนวต้านด้วยเช่นเดียวกันทำให้มีความเป็นไปได้ว่าขาลงครั้งนี้อาจจะยังไม่จบแต่ก็ถือว่าเป็นช่วงเวลาดี ๆ ที่หลายคนได้กำไรจากการแลกเปลี่ยนซื้อขายเหรียญต่าง ๆ ภายในตลาด บางเหรียญมีราคาพุ่งสูงขึ้นเกินกว่า 30% เลยทีเดียว สำหรับคนที่ถือ Bitcoin อยู่ในตอนนี้ต้องเอาใจช่วยให้ราคาของ Bitcoin สามารถขึ้นไปยืนเหนือราคา 1.38 ล้านให้ได้ จึงมีแนวโน้มที่ราคาจะปรับตัวกลับเป็นขาขึ้นอีกครั้ง แต่ไม่ว่าอย่างไรก็ตามในตอนนี้ก็ถือว่าเป็นจุดซื้อที่ดีที่จะเข้าซื้อ และก็ยังไม่เหมาะสำหรับผู้ที่จะเข้าซื้อเพื่อ Short เมื่อสามารถทำกำไรได้ก็ต้องเตรียมเสียภาษี หลังจากที่เป็นที่วิพากษ์วิจารณ์มาตั้งแต่ต้นปีว่าการเก็บภาษีคริปโตโดยใช้กฎหมายเก่านั้นอาจจะยังไม่เหมาะสมมากนัก ทำให้ทางผู้เกี่ยวข้องได้ทำการปรึกษาหารือเกี่ยวกับการออกกฎหมายเก็บภาษีคริปโตที่มีความชัดเจนมากยิ่งขึ้น […]

ธปท.จับมือ ก.ล.ต. ประกาศเบรก ห้ามใช้คริปโตชำระสินค้าและบริการ

ธปท.จับมือ ก.ล.ต. ประกาศเบรก ห้ามใช้คริปโตชำระสินค้าและบริการ

1 ปีแล้วที่คนในประเทศไทยส่วนใหญ่ได้รู้จักกับเงินสกุลดิจิตอลหรือว่าคริปโตเคอเรนซี่หลังจากที่เมื่อปีที่แล้วตลาดคริปโตนั้นถือว่าเติบโตขึ้นมามากเลยทีเดียว จนสามารถเรียกได้ว่าเป็นปีทองของตลาดคริปโตเคอเรนซี่ ผู้คนแห่เข้ามาลงทุนเป็นจำนวนมากและได้เกิดนวัตกรรมใหม่ๆ มากมาย ซึ่งการที่คนเข้ามาลงทุนในประเทศไทยทำให้ Exchange หรือตลาดแลกเปลี่ยนซื้อขายในประเทศไทยนั้นมีอัตราการเติบโตที่พุ่งขึ้นสูงอย่างรวดเร็วโดยเฉพาะ Bitkub ที่มีคนแห่เข้ามาสมัครเพื่อซื้อทรัพย์สินดิจิตอลกันเป็นจำนวนมากจนบริษัทกลายเป็นบริษัทระดับยูนิคอร์นอันดับที่ 2 ของประเทศไทยเลยทีเดียวและเมื่อตลาดเริ่มมีการเติบโตทางผู้ประกอบธุรกิจก็เริ่มที่จะหาแนวทางในการใช้ประโยชน์จากคริปโตเคอเรนซี่เพิ่มมากขึ้น ซื้อขายสินค้าและบริการโดยใช้คริปโต ตั้งแต่ตลาดซื้อขายทรัพย์สินที่เช่าในประเทศไทยเริ่มมีการเติบโตมากขึ้นเราก็เริ่มเห็นทิศทางในการทำธุรกิจมากขึ้นตัวอย่างเช่นบริษัท Bitkub ที่เริ่มเดินทางไปจับมือกับบริษัทต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น The Mall, Bangkok Airway แล้วบริษัทอื่น ๆ อีกมากมาย ซึ่งบริษัทบางส่วนนั้นก็สามารถรับชำระค่าสินค้าและบริการผ่านคริปโตเคอเรนซี่ได้ หลังจากที่ได้มีการประกาศจับมือและให้มีการชำระเงินด้วยคริปโตเคอเรนซี่หลายๆ คนคงได้ลองใช้คริปโตเคอเรนซี่ในการชำระค่าสินค้าและบริการแล้วอย่างแน่นอน หรืออีก 1 บริษัทก็คือ Zipmex ที่ก็มีฟังก์ชันที่ให้ผู้ใช้บริการสามารถซื้อขายสินค้าโดยใช้คริปโตเคอเรนซี่ด้วยเช่นเดียวกันตัวอย่างเช่นอสังหาริมทรัพย์ ร้านอาหาร หรือว่าสินค้าต่าง ๆ หรือแม้แต่ร้านกาแฟ Intanon และโรงภาพยนตร์ SF ในตอนนี้ก็มีการรับชำระเงินด้วยคริปโตเคอเรนซี่แล้วด้วยเช่นเดียวกัน ซึ่งการรับชำระเงินด้วยคริปโตเคอเรนซี่ในประเทศไทยกำลังได้รับความนิยมอย่างมาก แม้ว่าราคาของเหรียญจะผันผวนก็ตามที่ ช่วงที่กระแสกำลังมาแรงก็ดูเหมือนว่าทางธนาคารแห่งประเทศไทยจะไม่เห็นด้วยกับการใช้คริปโตเคอเรนซี่ในการชำระค่าสินค้าและบริการจึงได้ดำเนินการออกมาสั่งห้ามร้านค้าและผู้ประกอบการรับชำระเงินด้วยคริปโต ธปท.,คลัง และ ก.ล.ต ไม่เห็นชอบให้ชำระเงินด้วยคริปโต ในช่วงแรกที่ตลาดคริปโตเริ่มได้รับความนิยมและผู้คนบางส่วนหันมาชำระค่าสินค้าและบริการด้วยคริปโตแล้ว ธปท. ก็ได้มีการประกาศว่าไม่สนับสนุนให้ชำระเงินด้วยคริปโตแต่ว่าล่าสุดก็ได้มีการสั่งห้าม เพราะว่าเป็นทรัพย์สินที่มีความเสี่ยงและมีความผันผวนของราคาสูงและที่สำคัญอาจจะส่งผลต่อเสถียรภาพเงินบาทในประเทศไทย โดยมีกฎระเบียบแบบคร่าว ๆ ออกมาดังนี้ ห้ามโฆษณากับร้านค้าเพื่อให้ร้านค้ารับคริปโตเคอเรนซี่ […]

อัพเดทใหม่ Coinbase เพิ่มฟีเจอร์คำนวนภาษีง่ายๆเพียงไม่กี่คลิก

อัพเดทใหม่ Coinbase เพิ่มฟีเจอร์คำนวนภาษีง่ายๆเพียงไม่กี่คลิก

มีนักลงทุนในคริปโตจำนวนไม่น้อยเลย ที่มีการตัดสินใจชะลอเรื่องการลงทุนออกไป เนื่องจากมีความไม่แน่นอนจากทางภาครัฐในเรื่องของกฎหมายควบคุมคริปโตเคอเรนซี่และกฎหมายภาษี ปัญหานี้ทำให้เงินทุนบางส่วนไหลออกจากตลาดเพื่อรอจนกว่ารัฐบาลจะทำการชี้แจงในเรื่องของกฎหมายให้ชัดเจนมากยิ่งขึ้นซึ่งปัญหานี้ไม่ได้เกิดขึ้นในประเทศไทยจะเกิดไปทั่วทั้งโลกเลยก็ว่าได้ หลาย ๆ ประเทศมีการห้ามไม่ให้ใช้งาน หลาย ๆ ประเทศได้มีการอนุญาตให้ใช้งานแต่ต้องอยู่ภายใต้กฎหมาย แต่สิ่งหนึ่งที่นักลงทุนต้องการก็คือความชัดเจนในเรื่องของกฎหมายเพราะว่าพวกเขาจะได้ตัดสินใจถูกในการลงทุนนั่นเอง Coinbase เปิดใช้งานฟีเจอร์ใหม่ดูรายได้ที่ได้รับจากคริปโต สาเหตุหนึ่งที่ทำให้นักลงทุนมีความกังวลในเรื่องของการเก็บภาษีคริปโตก็คือความยากในการคำนวณนั่นเอง ตลาดคริปโตเคอเรนซี่เป็นตลาดที่มีความผันผวนอย่างมากและมีเหรียญจำนวนมากมายให้เลือกลงทุน บางคนมีการเข้าซื้อและขายออกหลายครั้งต่อ 1 วันทำให้จำนวนในการทำธุรกรรมนั้นมีมากกว่าในตลาดอื่น ทำให้บางครั้งการที่จะต้องมานั่งจดทุก ๆ การทำธุรกรรมนั้นเป็นเรื่องที่ยุ่งยากมากเกินไปและจะต้องมาหักลบกำไรขาดทุนอีกสิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งที่สร้างภาระให้กับนักลงทุนมากเกินไป Coinbase บริษัทที่เป็นตลาดซื้อขายทรัพย์สินดิจิตอลรายใหญ่ของสหรัฐอเมริกาจึงสร้าง ฟีเจอร์เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับนักเทรดคริปโตเคอเรนซี่ โดยฟีเจอร์ดังกล่าวจะแสดงรายละเอียดการทำธุรกรรมไม่ว่าจะเป็นกำไรส่วนต่างที่ได้จากการลงทุนหรือเงินที่ขาดทุน รวมถึงจะแสดงธุรกรรมที่จำเป็นจะต้องจ่ายภาษีให้กับนักลงทุนอีกด้วย ที่สำคัญเลยก็คือสำหรับผู้ที่ชื่นชอบในการโอนเงินออกไปเพื่อใช้ในการทำธุรกรรมบน DeFi นักลงทุนก็ยังสามารถติดตามรายงานในการคิดภาษีได้อีกด้วย นักลงทุนหลายรายที่เข้าไปลงทุนคริปโตเคอเรนซี่ ส่วนใหญ่แล้วที่ไม่ได้มีการจ่ายภาษีก็เพราะว่าพวกเขาสับสนในเรื่องของการคำนวณภาษีและความไม่ชัดเจนของกฎหมายนั่นเอง ในส่วนนี้โปรแกรมของ Coinbase จะช่วยให้นักลงทุนสามารถคำนวณภาษีได้ง่ายมากขึ้นและไม่พลาดที่จะจ่ายภาษีอย่างแน่นอน การเก็บภาษีคริปโตเคอเรนซี่ในประเทศไทย ในตอนนี้ประเทศไทยกำลังมีการปรึกษาหารือในเรื่องของการเก็บภาษีคริปโตกันอยู่ซึ่งจะมีการทำให้ชัดเจนมากที่สุดในช่วงสิ้นเดือนนี้เพื่อให้ทันต่อการจ่ายภาษีในรอบเดือนมีนาคมแต่ไม่ว่าอย่างไรก็ตามถ้าไม่เป็นไปตามกำหนดก็คงจะต้องมีการเลื่อนออกไป อ้างอิงจากกฎหมายเดิมการเทรดคริปโตที่ได้กำไรจะต้องทำการหักภาษี 15% ต่อ 1 การทำธุรกรรม รวมทั้งยังต้องคิดภาษีเงินได้รายปีด้วย ซึ่งเป็นกฎหมายที่ทำให้ยากต่อการคำนวณของนักลงทุนและเป็นกฎหมายที่ไม่สามารถบังคับใช้ได้จริง ในตอนนี้เราเห็นหลายๆ ประเทศเริ่มมีการออกกฎหมายเกี่ยวกับการเก็บภาษีแล้วซึ่งประเทศไทยสามารถนำไปทำตามได้รวมถึง Coinbase ก็ถือว่าเป็นอีกหนึ่งตัวอย่างที่ดีในการที่ Exchange ในประเทศไทยจะนำไปทำตามเพื่อให้นักลงทุนมีความสะดวกสบายในการคิดคำนวณภาษีนั้นเอง ข้อมูลจาก The Vergeภาพจาก Pixabay