นับว่าฮิตขึ้นทุกวันจริงๆกับเกมอินดี้ ภาพสไตล์ Pixels น่ารักๆอย่าง Core Keeper จนขนาดที่พี่เอก HEARTROCKER ยังหยิบมาไลฟ์ Streaming ให้ชาวนกอ้วนได้เห็นความสนุกของตัวเกมไปแล้ว แน่นอนว่าแบบนี้ก็ทำเอาใครหลายๆคนอยากซื้อมาเล่นตามกันเลยทีเดียว โดยตัวเกม เป็นผลงานของสตูดิโอเล็กๆชื่อ Pugstorm โดยตัวเกมตอนนี้มียอดคนเล่นเฉลี่ยบน Steam พีคถึง 20,000 คนต่อวัน และวันนี้จะมาดูกันว่าเกมนี้มีอะไรดี ทำไมถึงฮิตกันทั่วบ้านทั่วเมืองได้ขนาดนี้
Core Keeper เป็นแนว Co-op survival ที่ผสมผสานระบบต่างๆได้อย่างลงตัว
เป็นเกมที่ผู้เล่นจะต้องเอาตัวรอดในถ้ำใต้ดินและสามารถ Co-op เพื่อนได้พร้อมกันถึง 8 คน โดยผู้เล่นจะสามารถตกปลา ปลูกผัก หาทรัพยากร สร้างฐาน หรือคราฟอุปกรณ์ต่างๆเพื่อนอำนวยความสะดวกให้ตัวละครได้ และยังต้องต่อสู้กับเหล่ามอนสเตอร์ที่อยู่ในถ้ำ อย่างเช่นเหล่า สไลม์ และก็อบลิน ทั้งยังมีบอสหนอนยักษ์ให้ผู้เล่นได้ล่าอีก เป็นการมัดรวมเอาระบบต่างๆเข้าด้วยกันอย่างน่าสนใจ ซึ่งนับว่าเป็นอีกหนึ่งเกมเล่นกับเพื่อนที่มีอะไรให้ทำเยอะแยะไปหมด รับรองว่าไม่เบื่อง่ายๆกันแน่นอน
การเอาตัวรอดแบบเกม Minecraft ที่ถูกใจใครหลายคน
ขึ้นชื่อว่าเกมแนว Survival แล้ว แน่นอนว่าตัวเกมต้องใส่ระบบความหิวเข้ามา เพื่อเป็นหนึ่งในความท้าทายที่ผู้เล่นต้องเจอ ซึ่งสำหรับใครที่เป็นสายเล่นคนเดียวแล้วน่าจะถือว่าเป็นการเล่นเกมในโหมด Hard เลยทีเดียว เพราะด้วยความเป็น RPG ที่เกมใส่เข้ามาแล้ว การกินอาหารจะมีผลต่อค่า Status ตัวละครได้เช่นกัน เพราะนอกจากผู้เล่นจะต้องกินอาหารเพื่อบัพ Status แล้ว ถ้าไม่กินอะไรเลยก็จะไปลดค่า Status บางอย่างๆของตัวละครได้เหมือนกัน แล้วถ้าเอามาเป็นเกมเล่นกับเพื่อนแล้วล่ะก็รับรองเฮฮาปาร์ตี้กันจนลืมเวลากินข้าวกันเลยทีเดียว
ถึงจะเป็นภาพแนว Pixels แต่ตัวเกมก็ถูกออกแบบมาอย่างยอดเยี่ยม
แน่นอนว่าถ้าไม่ใช่เกมกราฟิกระดับ AAA เหมือนเกมค่ายยักษ์ใหญ่แล้ว สิ่งที่จะมาดึงให้คนสนใจก็ต้องเป็นระบบเกมนี่แหละ ซึ่งบอกเลยว่า สอบผ่านจุดนี้แบบ 10/10 ไม่หักกันเลย ด้วยการออกแบบเกมเพลย์ที่มีความลึก ยืดหยุ่น และทำให้หลายคน Enjoy ไปกับเกมได้ไม่ยาก การออกแบบแผนที่ Biome ต่างๆให้มีความหลากหลาย รอให้ผู้เล่นได้ค้นพบ และยังสามารถขุดแร่หาทรัพยากรใหม่ๆมาพัฒนาอุปกรณ์ของตัวละครให้ไฮเทคขึ้นได้อีกด้วย
สรุปได้ว่าตัวเกมสามารถเป็นทั้งเกมเล่นคนเดียวสำหรับสาย Alone และเป็นเกมออนไลน์สำหรับสาย Party ได้ในเวลาเดียวกัน ด้วยเกมเพลย์ที่ถูกออกแบบมาอย่างประณีต ระบบการเอาชีวิตรอดที่ท้าทาย และความหลากหลายของ Biome ต่างๆแล้ว นับว่าไม่แปลกใจเลยว่าทำไมตัวเกมถึงฮิตได้ขนาดนี้ และถ้าทาง Pugstorm ขยันปล่อยอัปเดตมาบ่อยๆล่ะก็ ตัวเกมจะต้องกลายเป็นมาตรฐานให้เกม Survival อื่นๆ ที่จะตามมาในอนาคตอย่างแน่นอน โดยตัวเกมวางจำหน่ายบน Steam ด้วยสนนราคาแค่ 219 เท่านั้น นับว่าคุ้มค่ามากๆกับคุณภาพของตัวเกมที่ได้รับ สามารถไปตำกันได้ คลิกที่นี่เลย หรือ อยากอ่านบทความอื่นๆ คลิกที่นี่เลย